ผลการค้นหา
คัดสรรมาแบบเน้น ๆ แพคเกจ ทัวร์รัสเซีย 2563 - 2020 คุณภาพสูง ที่มาพร้อมกับการบริการที่ดี โปรแกรมทัวร์รัสเซีย 5 ดาว พาท่องเที่ยวประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่สุดในโลกอย่างประเทศรัสเซีย ทัวร์รัสเซียแสงเหนือชมความงดงามของออโรร่า ทัวร์มอสโคว์ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ดูสุนัขลากเลื่อน และพลาดไม่ได้กับความงดงามของสถาปัตยกรรมสุดตระการตร ถ้าไม่รู้จะทัวร์รัสเซียบริษัทไหนดี 360 World Tour นั้นตอบโจทย์อย่างแน่นอน ทัวร์รัสเซีย ราคาถูก กว่าเดินทางไปเองแบบส่วนตัว 100%
ถ้าอยากไปเที่ยวยุโรปแต่ขี้เกียจไปจัดการเรื่อง VISA ต้องทำอย่างไรดี ทางออกที่ดีที่สุดก็คือเลือกไปในประเทศที่ไม่ต้องใช้ VISA นั่นเอง สำหรับวันนี้คำตอบอยู่ที่การเดินทางมา ทัวร์รัสเซีย เพราะนอกจากประเทศตุรกีแล้วก็มีประเทศรัสเซียนี่เองที่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้นานถึง 30 วันโดยไม่ต้องใช้ VISA แต่อย่างใด เอาล่ะค่ะถ้าสนใจอยากจะไปทัวร์รัสเซียกันก็มาศึกข้อมูลที่ควรรู้ของประเทศนี้กันเลยดีกว่า
1. การไปทัวร์รัสเซียไม่ต้องใช้ VISA สามารถท่องเที่ยวแบบจัดเต็มได้นานถึง 30 วัน แต่ว่าถ้าไปทัวร์รัสเซียนานกว่านี้ต้องใช้ VISA และเอกสารสำคัญในการเดินทางอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
2. ไม่ว่าจะเป็นการทัวร์รัสเซีย หรือว่าเดินทางไปเที่ยวประเทศอื่น ๆ ก็ควรเก็บพาสปอร์ตเอาไว้กับตัวตลอดเวลา เพราะตำรวจรัสเซียอาจมาจะเรียกตรวจก็เป็นได้
3. ใครที่มาทัวร์รัสเซียก็อาจจะแปลกใจว่าทำไมคนรัสเซียยิ้มยากจัง ไม่เหมือนคนไทยเลยที่ยิ้มง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้วคนรัสเซียไม่ได้หยิ่งแต่อย่างใด เพียงแต่เขาไม่มีวัฒนธรรมการยิ้มให้กับคนไม่รู้จักเท่านั้นเอง
4. คนรัสเซียดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันเก่งมาก เพราะว่าที่นั่นอากาศหนาวเย็น จึงต้องพึ่งพาแอลกอฮอล์เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
5. คนรัสเซียชอบใส่เสื้อผ้าโทนมืดๆ เพราะฉะนั้นหากไม่อยากดูสะดุดตามากเกินไป แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าโทนสีเดียวกับชาวรัสเซียเมื่อเดินทางมา ทัวร์รัสเซีย
6. การเดินทางไปทัวร์รัสเซียตามสถานที่ต่าง ๆ ในเวลากลางคืนค่อนข้างมีความน่ากังวลอยู่นิดหน่อย หากต้องการไปเที่ยวกลางคืน ควรเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม และไม่ควรกลับที่พักเกินสี่ทุ่มจะปลอดภัยกว่า
การไปทัวร์รัสเซียโดยเครื่องบินเฉลี่ยแล้วใช้เวลาเดินทางประมาณ 9-10 ชั่วโมง เวลาที่รัสเซีย (มอสโคว) จะช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามประเทศรัสเซียนั้นมีพื้นที่ประเทศที่ค่อนข้างใหญ่มาก ๆ ระดับต้น ๆ ของโลก เพราะฉะนั้นเรื่องเวลาของบางเมืองก็จะแตกต่างกันออกไป
สำหรับใครที่ต้องการไปทัวร์รัสเซียด้วยความสะดวกสบาย ก็ขอแนะนำให้เลือกซื้อ แพคเกจทัวร์รัสเซีย 5 ดาวจากบริษัททัวร์ที่สนใจดูก็ได้ เพราะเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาวางแผนโปรแกรมทัวร์รัสเซีย ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องจองตั๋วเครื่องบิน นอกจากนี้การเดินทางไปกับ บริษัททัวร์รัสเซีย ก็ยังสามารถท่องเที่ยวได้แบบครบครัน ไม่แพ้กับการเดินทางทัวร์รัสเซียเองแม้แต่น้อย
ประเทศรัสเซียมี 4 ฤดู คือ ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) และฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) ช่วง High Season ที่เหมาะจะมาทัวร์รัสเซีย คือฤดูร้อน เพราะอากาศจะไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป อยู่ที่ประมาณ 25-30 องศา เหมาะสำหรับการเดินทางมาทัวร์รัสเซียมาก ๆ
ส่วนฤดูอื่น ๆ อากาศจะเริ่มหนาวแล้วสำหรับคนไทย และจะหนาวแบบสุดขั้วในช่วงฤดูหนาว เพราะรัสเซียเป็นประเทศที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือมาก ดังนั้นนั้นจึงได้รับอิทธิพลความหนาวเย็นมาแบบเต็ม ๆ แต่ว่าถ้าใครชอบเที่ยวแบบอากาศหนาวๆ ดูหิมะ ปั้นสโนว์แมน เล่นสกี ก็ขอแนะนำเลยว่าให้มาทัวร์รัสเซียในช่วงนี้เลยค่ะ ที่สำคัญคือเป็นช่วงที่ห้องพัก และสินค้ามีราคาถูก เพราะเป็นช่วง Grand Sale โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์เนมก็มีลดราคากับเขาด้วยเหมือนกัน การมาทัวร์รัสเซียในช่วงนี้เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับการเที่ยว ช็อป แบบสุด ๆ
1. ควรมีการเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับไป ทัวร์รัสเซีย หากเดินทางไปเที่ยวฤดูร้อนอากาศอาจจะไม่หนาวเย็นมาก แต่นักท่องเที่ยวจะเยอะมากเพราะเป็น High Season ดังนั้นหากเลือกไปทัวร์รัสเซียในช่วงฤดูอื่นอย่าลืมจัดเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศไปด้วยล่ะ
2. การขับรถเองเมื่อไปทัวร์รัสเซียค่อนข้างอันตราย เพราะระบบการเดินรถ และระบบจราจรที่นี่ค่อนข้างแย่ติดอันดับโลกเลยทีเดียว เราเป็นนักท่องเที่ยวย่อมไม่ชินทาง บางทีการเช่ารถพร้อมคนขับอาจปลอดภัยมากกว่า แต่ถ้าอยากจะขับเองก็อย่าลืมพกแผนที่หรือ GPS ติดตัวตลอดเวลาด้วย
3. ประเทศรัสเซียใช้ปลั๊กหัวกลมแบบ 2 ขา ดังนั้นอย่าลืมพกตัวแปลงปลั๊กไฟติดตัวไปด้วยเมื่อมาทัวร์รัสเซีย
4. ถึงแม้ที่พักในรัสเซียส่วนใหญ่จะมีไวไฟ แต่จะดีกว่าถ้าซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์เอาไว้ เพราะบางครั้งอาจเกิดเหตุฉุกเฉินได้ ซิมการ์ดสามารถหาซื้อได้ที่สนามบิน และจะต้องใช้พาสปอร์ตในการซื้อด้วย
5. ค่าครองชีพที่ประเทศรัสเซียสูงมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เพราะฉะนั้นควรพกบัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสดที่ใช้ในประเทศรัสเซียได้ไปด้วย สำหรับเงินสดนั้นไม่ควรพกติดตัวเยอะเกินไปเมื่อมาทัวร์รัสเซีย เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้
มอสโคว์ (Moscow) นั้นเป็นเมืองหลวงของประเทศรัสเซีย จึงกลายเป็นแลนมาร์คสำคัญของประเทศไม่ว่าใครก็ตามที่มาทัวร์รัสเซียจะต้องมาเยือนที่นี่ให้ได้ นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวให้เลือกไปเยือนมากมาย เช่น จัตุรัสแห่งประวัติศาสตร์อย่างจัตุรัสแดง วิหารเซนต์บาซิล วิหารเซนต์ซาเวียร์ พระราชวังเครมลิน พระราชวังคุสโกโว อนุสรณ์สถานเลนินอดีตผู้นำของรัสเซีย ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีโรงละคร และโรงบัลเลต์อีกหลายโรง อาคารสถานที่ในเมืองนี้ก็สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังมีการจัดการพื้นที่สีเขียวได้ดีมาก เรียกได้ว่าถึงจะเป็นเมืองหลวงแต่ก็ยังเต็มไปด้วยต้นไม้เลยทีเดียว
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St.Petersburg) เป็นเมืองที่ใหญ่รองเป็นอันดับสองจากมอสโคว์ ที่เมืองนี้เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมศิลปะ วัฒนธรรม ไม่ต่างจากเมืองแรกเลย แถมยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง The Hermitage วิหารโบราณเซนต์ไอแซค วิหารซาเวียร์ พระราชวังสไตล์บาโรค พระราชวังเมนชิกอฟ และพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ อีก 2-3 แห่ง ใครก็ตามที่ชื่นชอบในงานศิลปะ หรือต้องการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ การเดินทางมา ทัวร์รัสเซียเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก นั้นถือว่าตอบโจทย์ความต้องการอย่างมาก ๆ
Karalia เป็นเมืองที่อยู่ติดกับชายแดนฟินแลนด์ มีทะเลสาบมากมายกว่า 60,000 แห่ง เมืองนี้แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะภูเขา ลำธาร ป่าไม้ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีวัฒนธรรมฟินแลนด์โบราณผสมอยู่ เรียกว่าเป็นเมืองสองวัฒนธรรมเลยทีเดียว การมาทัวร์รัสเซียเมืองนี้เหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่ต้องการมาพักผ่อนหย่อนใจ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งชาร์จพลังงานชีวิตชั้นดีเลยทีเดียว
Kazan เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 1,000 ปีของประเทศรัสเซีย ปัจจุบันเป็นเมืองที่โดดเด่นเรื่องการท่องเที่ยวทางกีฬาอย่างมาก สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปทัวร์รัสเซียมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน เช่น พิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตโซเวียต คาซานเครมลิน บาวแมนสตรีท ฯลฯ
เมืองนี้โดดเด่นในเรื่องการเป็นเมืองสกีรีสอร์ทชั้นนำของประเทศรัสเซีย มีความสวยงามผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และความเจริญตามแบบฉบับโลกยุคใหม่ ถ้ามาทัวร์รัสเซียแล้วตั้งใจมาเที่ยวที่นี่รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะว่ามีสถานท่องเที่ยวหลากหลายไม่ต่างจากเมืองใหญ่เมืองอื่นของรัสเซียเลยแม้แต่น้อย เช่น ป้อมโบราณก็อดริก คฤหาสน์ฤดูร้อนของสตาลิน พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งสัตว์ และศิลปะ นอกจากสถานที่ดังกล่าวข้างต้นแล้วที่นี่ยังเคยเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวปี 2014 มาก่อนด้วย
Yekaterinburg เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนยุโรปกับเอเชีย มีความเก่าแก่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ดูได้จากอนุสรณ์สถานเก่าแก่ของโซเวียตที่ปรากฏอยู่พื้นที่ อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์และห้องสมุดอีกนับสิบ เรียกได้ว่าเป็นเมืองศูนย์กลางวัฒนธรรมของเอเชียกันเลยทีเดียว เหมาะมากสำหรับผู้ต้องการมาทัวร์รัสเซียเพื่อศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์แห่งประเทศรัสเซีย
Suzdal เป็นอีกหนึ่งเมืองเก่าแก่ในยุโรปที่ยังคงความเป็นโบราณเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นปราสาท โบสถ์ หอคอย อนุสรณ์สถานต่าง ๆ ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมแทบจะเหมือนกับหยุดเวลาเอาไว้ เพราะฉะนั้นการไปทัวร์รัสเซียแล้วมาเที่ยวที่นี่จึงไม่ต่างอะไรไปกับการย้อนเวลากลับเข้าไปหาอดีตเลย เพราะใครก็ตามที่มาทัวร์รัสเซียที่นี่จะได้สัมผัสทั้งความงามของเมืองโบราณ วิถีชีวิตเรียบง่ายดั้งเดิม ร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดสดที่เป็นแบบเก่าทั้งหมด ปัจจุบันนี้ยังมีรถม้าให้บริการอยู่ด้วยนะ ถ้าชอบเที่ยวแบบวินเทจ ๆ แล้วมาเที่ยวที่เมืองนี้ รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
การมาเที่ยวรัสเซียนับว่าเป็นประเทศที่เที่ยวได้สบาย ๆ แบบไม่ต้องง้อ VISA แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเที่ยวเยอะ มีให้เลือกหลากหลายแนวตามที่ต้องการ เช่น แนวธรรมชาติ แนวผจญภัย แนวประวัติศาสตร์ แนวศิลปะ ฯลฯ อากาศประเทศนี้ก็ดี๊ดีถึงแม้จะหนาวไปหน่อยในฤดูหนาวก็ตาม แต่ก็นับว่าเป็นประเทศที่น่าสนใจมาก ๆ ใครอยากไป ทัวร์รัสเซีย แล้วยังรู้สึกลังเลอยู่รีบไปเลยค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน